กีฬา บาสเกตบอล ถือเป็นหนึ่งกีฬาที่มีประวัติความเป็นมามาอย่างยาวนาน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีชื่อเสียงทั่วโลก ซึ่งหลายๆ คน อาจยังไม่ทราบว่ากีฬาชนิดนี้ถือเป็นกีฬาประจำชาติของอเมริกา ที่มีจุดกำเนิดมาจากความต้องการที่จะช่วยเหล่ากลุ่มสมาชิกของ Y.M.C.A. ให้สามารถเล่นกีฬาได้ในช่วงหน้าหนาว เพราะเนื่องจากฤดูหนาวภายในประเทศนั้นจะเกิดหิมะปกคลุมพื้นทั่วทุกพื้นที่ ก่อให้เกิดอุปสรรค์ในการเล่นกีฬาทางแจ้งทุกชนิด จึงทำให้คณะกรรมการขององค์กร Y.M.C.A. ได้คิดค้นวิธีเพื่อจะทำให้กลุ่มสมาชิกนั้นสามารถเล่นกีฬาได้โดยไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
ต่อมาในช่วงปี 1891 ครูพลศึกษาจาก The International Y.M.C.A. Training School อย่าง Dr.James A.Naismith ก็ได้รับมอบหมายงานสำคัญจาก Dr.Gulick ให้ทำหน้าที่ในการคิดค้นกีฬารูปแบบใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความเหมาะสมในการใช้เล่นในช่วงหน้าหนาวได้ ทำให้ Dr.James ได้ทำการคิดค้นรูปแบบกีฬาอย่างหนัก โดยการนำกีฬาอเมริกันฟุตบอลและเบสบอลมาดัดแปลงให้เข้าด้วยกัน โดยสามารถเล่นได้ในรูปแบบทีม
ในครั้งแรกที่ได้มีการทดลองเล่นกีฬาชนิดนี้นั้น มีการแบ่งสมาชิกของทีมการแข่งขันทีมละ 7 คน ซึ่ง Dr.James ได้นำเอาลูกฟุตบอลและตะกร้ามาเป็นอุปกรณ์หลักในการเล่นกีฬาชนิดนี้ โดยนำเอาตะกร้าลูกพีชไปแขวนไว้ที่บริเวณของฝาผนังห้องพลศึกษา การเล่นกีฬาชนิดนี้นั้น ผู้เล่นจะต้องนำเอาลูกบอลโยนเข้าตัวตะกร้าให้ได้โดยใช้พื้นที่สนามเป็นพื้นที่ของการแข่งขันนั้นเอง โดยเรียกกีฬาชนิดนี้ว่า “บาสเกตบอล”
ในการทดลองเล่นในครั้งแรก เรียกได้ว่านักกีฬาทุกๆ คนต่างได้รับความสนุกสนานเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถตอบโจทย์เรื่องสภาพอากาศด้านนอกที่ไม่มีอุปสรรค์ต่อการแข่งขัน แต่ในความสนุกความตื่นเต้น ก็ยังมีความไม่เป็นระเบียบเกิดขึ้น การปะทะเข้าถึงตัวก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ ทำให้ Dr.James ได้คิดกติกาหลักๆ 4 ข้อ ที่ผู้เล่นต้องปฏิบัติตาม
กฎ 4 ข้อหลักๆ สำหรับการเล่นกีฬาบาสเกตบอล
- ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลอยู่ จะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้โดยเด็ดขาด ต้องอยู่กับที่เท่านั้น
- ประตู จะต้องอยู่เหนือศีรษะของผู้เล่นโดยสิ้นเชิงและอยู่ในตำแหน่งที่ขนานกับพื้นการแข่งขัน
- ผู้เล่นจะสามารถครอบครองลูกบาสเกตบอลได้นานเท่าที่ต้องการ ซึ่งผู้ต่อสู้จะไม่สามารถเข้าไปถูกเนื้อต้องตัวผู้ที่ครอบครองลูกบอลได้เลย
- ห้ามเล่นด้วยความรุนแรงเด็ดขาด ห้ามทั้ง 2 ทีม มิให้ทำการกระทบกระแทกกันในระหว่างการแข่งขัน
หลังจากที่ได้มีการออกกฎและกติกาการเล่นหลักๆ ขึ้นมานั้น ก็ได้มีการทดลองเล่นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการเปลี่ยนจำนวนสมาชิกทีมให้น้อยลง โดยลดเหลือทีมละ 5 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนคนที่มีความเหมาะสมต่อสนามการแข่งขัน และยังสามารถหลีกเลี่ยงการปะทะกันของนักกีฬาได้ดีอีกด้วย ไม่เท่านั้น Dr.James ก็ได้ทำการพัฒนาการเล่นอย่างเสมอ หลังจากการรับชมการทอดลองเล่นของนักกีฬา จึงก่อให้เกิดกติกาการเล่นอีก 13 ข้อ ที่ยังปรากฏอยู่บนกระดานเกียรติยศ ณ โรงเรียนพลศึกษา ณ Springfield จนถึงปัจจุบันนี้
ต่อมากีฬาชนิดนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยความรวดเร็ว จากกีฬาภายในโรงเรียน ก็กลายเป็นกีฬาระดับประเทศ ในช่วงปี 1915 แม้ว่าบาสเกตบอลจะกลายเป็นกีฬาที่มีชื่อเสียงเป็นวงกว้างก็ตาม แต่ก็ยังคงได้รับการจำกัดให้เล่นเพื่อการออกกำลังกายในห้องพลศึกษาเท่านั้น ซึ่งแต่ละที่ก็ต่างมีกฎกติกาที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ทาง Y.M.C.A.ได้ออกมาประชุมเพื่อหากติกาสำหรับการเล่นบาสเกตบอลที่เป็นมาตรฐาน ภายในบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่งได้ใช้กันมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 1938 ก็ได้รับการแก้ไขให้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อนำเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 11 ทำให้ผู้พิจารณาสหรัฐอเมริกาได้ยอมรับให้กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาประจำชาติในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1892 ซึ่งถือเป็นการนำเอากีฬาชนิดนี้มาเล่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกอีกด้วย ทำให้บาสเกตบอลกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก เริ่มมีการเผยแพร่ไปยังต่างประเทศทั่วโลก และก็ได้รับความนิยมในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1
ประชากรจากทั่วทุกมุมโลกเริ่มให้ความสนใจในการเล่นบาสเกตบอลมากยิ่งขึ้น จำนวนถึง 20 ล้านคน ซึ่งไม่น้อยไปกว่า 52 ประเทศ นอกจากนี้กฎและกติกาการเล่นนั้น ก็ยังมีการนำไปแปลภาษามากกว่า 30 ภาษา ทำให้กีฬาบาสเกตบอลกลายเป็นกีฬาที่ทำให้ทั่วโลกต่างให้ความยอมรับอย่างมากจนมาถึงปัจจุบัน